ศูนย์การเรียนรู้เกษตรผสมผสานตามแนวพระราชดำริ มหาวิทยาลัยมีแนวคิดว่าการที่จะเป็นศูนย์ต้นแบบด้านการเษตรแบบผสมผสานที่ใช้พื้นที่น้อยและสามารถที่จะได้ประโยชน์สูงสุด โดยน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพื้นที่ 5.5 ไร่ ทำให้เห็นว่าพื้นที่ขาดความอุดมสมบูรณ์ เป้าหมายหลัก คือ การใช้พื้นที่เป็นที่ฝึกอบรมอาชีพให้กับประชาชนที่ยังไม่มีอาชีพ และใช้พื้นที่สำหรับให้นักศึกษาลงไปเรียนรู้ในพื้นที่ และใช้พื้นที่ตรงนี้ให้นักเรียนที่เป็นโรงเรียนเครือข่ายบริเวณรอบโป่งสลอด เข้าไปฝึกงานฝึกอาชีพกันแล้วขณะเดียวกันเมื่อเขาฝึกเขาจะได้สิ่งที่เขาได้ คือ ได้ความรู้กับสิ่งที่เขาทำ ก็จะได้ผลผลิตกลับไปด้วย ซึ่งสิ่งที่จะเกิดได้เร็วที่สุดคือ การปลูกพืชที่เป็นพืชอายุสั้น แต่สิ่งหนึ่งที่จะต้องแก้ปัญหาก่อนก็คือ ทำอย่างไรให้ดินที่วิกฤตส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากอยู่ในเขตของป่าเสื่อมโทรมมานาน วิธีการแรกก็คือ การปรับปรุงดินโดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยให้นายสุริยะ ชูวงศ์ ซึ่งเป็นมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ของมหาวิทยาลัย ท่านเก่งในเรื่องของการเกษตร ได้ดำเนินการดังนี้ 1) ตรวจสภาพดิน 2) นำดินที่ตรวจสภาพเข้าสู่กระบวนการปรับปรุงโดยการใช้ปุ๋ยที่เราผลิตขึ้นมาเอง และ 3) การทดลองการปลูกพืชในดิน ที่จะเหมาะสมกับดินชนิดต่างๆ
ศูนย์การเรียนรู้เกษตรผสมผสานฯ มีพืชอยู่ จำนวน 27 ชนิด ดำเนินการโดยใช้หลักการเกษตรผสมผสานกับหลักเศรษฐกิจ ก็คือ การปลูกพืชที่พืชทุกชนิดจะให้ผลผลิตที่ต่างกัน ต่างระยะเวลา ต่างราคา และต่างสถานที่ มีระยะเวลาตั้งแต่ใต้ดิน บนดิน แล้วก็ขึ้นมาเป็นต้น ออกดอกออกผล จนสุดท้ายเป็นพืชยืนต้น ถ้าทำได้จะทำให้คนที่ปลูกได้ประโยชน์ คือ สามารถเก็บผักหรือเก็บพืชพวกนี้ขายได้ตลอดปี ซึ่งพบว่า 27 ชนิดนี้ ได้แก่ ส้มโอ กล้วย มะละกอ มะนาว ไผ่ มะม่วง เป็นต้น นอกจากนี้มีชมพู่เพชรสายพันธุ์เพชรบุรี ฝรั่ง อินทผาลัม ทดลองปลูกจำนวน 20 ต้น เป็นการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อซึ่งเป็นต้นตัวเมีย มีแปลงองุ่น ที่ได้ทดลองปลูกเพื่อทดลองตั้งแต่การเตรียมคือใช้กระบวนการวิจัยเข้าไป ว่าดินแบบนี้เหมาะสมกับการปลูกองุ่นหรือไม่ ซึ่งได้ไปพบที่ปากช่องที่มีลักษณะดินใกล้เคียงกับดินของโป่งสลอด และต่อมามีการปลูกกาแฟ โกโก้ ซึ่งจะไปเชื่อมโยงกับเรื่องของร้านค้า ที่มีการจัดทำร้านกาแฟ และร้านอาหารท้องถิ่น ขณะที่ไปเที่ยวพักผ่อน นอกจากจะได้รับประทานอาหาร และถ้ามีกาแฟ มีขนมที่มาจากโรงเรียนการอาหารของเรา ก็จะทำให้ครบวงจรและประการสำคัญคือ กาแฟที่เราปลูกจะเป็นกาแฟที่ป้อนสู่ร้านกาแฟของเราด้วย จะทำให้ไปสู่กระบวนการที่ครบวงจร นอกจากนั้นอีกสิ่งหนึ่ง ที่ถือว่าในส่วนของสวนเกษตรผสมผสาน คือ ระบบการบริหารจัดการน้ำโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมด ซึ่งไม่ได้ใช้ไฟฟ้าจากของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเลย เชื่อว่าถ้าประชาชนที่อยู่ห่างไกลไม่มีไฟฟ้า ตรงนี้ก็จะเป็นต้นแบบในการนำความรู้ไปใช้โดยใช้ฐานเรียนรู้ด้านวิศวกรรมในการออกแบบระบบซึ่งราคาไม่แพง จะสามารถที่จะดูดน้ำมาใช้ได้ทั้งหมด
มหาวิทยลัยพัฒนาพื้นที่วิทยาเขตโป่งสลอด และชุมชนใกล้เคียงให้เกิดเป็นศูนย์เรียนรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน และสร้างชุมชนโป่งสลอดและพื้นที่ใกล้เคียงให้เป็นชุมชนที่น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่การพัฒนา เพื่อเป็นชุมชนต้นแบบ ได้บูรณาการทำงานร่วมกับพี่น้องประชาชนบ้านโป่งสลอด หน่วยราชการ คณาจารย์ และนักศึกษา ใช้พื้นที่ในการเปิดศูนย์เรียนรู้เกษตรผสมผสาน น้อมนำแนวความคิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาใช้ในพื้นที่ ปลูกพืช 4 ชนิด พืชแต่ละชนิดให้ผลผลิตที่แตกต่างกันในแต่ละเดือน ในพื้นที่ 5.5 ไร่ สามารถสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน
นอกจากนี้ในศูนย์การเรียนรู้เกษตรแบบผสมผสานฯ มีฐานเรียนรู้ จำนวน 5 ฐานเรียนรู้ ฐานที่ 1 การบริหารจัดการน้ำอย่างคุ้มค่าจากพลังงานแสงอาทิตย์สู่ระบบน้ำอัจฉริยะ ฐานที่ 2 ปุ๋ยหมักเปลือกโตนดบ้านโป่งสลอด ฐานที่ 3 ต่อยอดพันธุ์ปลาพระราชทาน ฐานที่ 4 สืบสานการขยายพันธุ์พืช และฐานที่ 5 แมลงต้องหนี อาหารปลอดภัย